ในการทำงานบางอย่างจำเป็นต้องใช้คำสั่งมากกว่า 1
คำสั่งเพื่อทำงานนั้นให้สำเร็จ ซึ่งคำสั่งที่เขียนรวมกันไว้ใช้งานจะเรียกว่าฟังก์ชัน
(Function)
ฟังก์ชัน (Function) คือ
การเขียนคำสั่งรวมกันไว้เป็นกลุ่มของคำสั่งเพื่อทำงานให้สำเร็จ
โดยกลุ่มของคำสั่งที่เราเขียนจะอยู่ภายในเครื่องหมาย { } เพื่อบอกขอบเขต
และมีการตั้งชื่อให้กับกลุ่มคำสั่งนั้น เพื่อความสะดวกในการเรียกใช้งาน
ข้อดีของการสร้างฟังก์ชันขึ้นมาใช้งาน คือ
ถ้าเราต้องการทำงานที่ซ้ำซ้อน หรือทำงานใดซ้ำกันหลายครั้ง เช่น
หากต้องการหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมทั้งหมด 10 รูป
เราต้องเขียนคำสั่งหาพื้นที่ทั้งหมด 10 ครั้ง
ดังนั้นหากเราสร้างฟังก์ชันหาพื้นที่รูปสามเหลี่ยมก็จะสามารถเรียกใช้ฟังก์ชันดังกล่าวเมื่อใดก็ได้
ฟังก์ชันมาตรฐานหรือไลบราลีฟังก์ชัน
lเป็นฟังก์ชันที่มีมาให้พร้อมกับตัวแปลภาษา C เพื่อใช้งานได้ทันที และใช้ในงานด้านต่างๆ โดยเน้นงานพื้นฐาน เช่น
ฟังก์ชันคำนวณทางคณิตศาสตร์ ฟังก์ชันสำหรับจัดการข้อความ ฟังก์ชันเวลา เป็นต้น
เพื่อให้ผู้เขียนภาษา C มีความสะดวกมากขึ้น
lไลบราลีฟังก์ชันภาษา C จะเก็บอยู่ในไฟล์นามสกุล
.h หรือที่เรียกว่า header file ยกตัวอย่างเช่น
ฟังก์ชันเกี่ยวกับการคำนวณจะเก็บอยู่ในไฟล์ชื่อ math.h หรือฟังก์ชันเกี่ยวกับการจัดการข้อความอยู่ในไฟล์ชื่อ
string.h เป็นต้น
1. ฟังก์ชันมาตรฐานหรือไลบราลีฟังก์ชัน
lในการเรียกใช้งานฟังก์ชันต้องเขียนรูปแบบการใช้คำสั่ง
คือ
#include<header file>
และเขียนไว้ในส่วนหัวของโปรแกรม เพื่อให้ตัวแปลภาษา C เข้าใจว่าภายในโปรแกรมของเรามีการเรียกใช้ไลบราลีฟังก์ชัน
ฟังก์ชันสตริง
lสตริง (string) หรืออะเรย์ตัวอักษร คือ
ข้อมูลที่ประกอบไปด้วยตัวอักษรที่มีการเรียงต่อเนื่องกันไป โดยมีจุดสิ้นสุดของข้อมูลสตริงที่ตัวอักษร NULL character เขียนด้วย ‘’
lในภาษาซีรูปแบบข้อมูลประเภทสตริงไม่มีการกำหนดไว้ การประกาศตัวแปรแบบสตริงทำได้ 2 วิธี คือ ในรูปของอะเรย์ กับในรูปของพอยน์เตอร์
lตัวอย่างการประกาศตัวแปรสตริง
char p[9] = “
I think !” ;
ฟังก์ชันมาตรฐานที่เกี่ยวกับสตริงที่ภาษาซีเตรียมไว้ให้เรียกใช้ ดังนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น